สินเชื่อลีสซิ่งและสินเชื่อเช่าซื้อ (Leasing & Hire Purchase) เป็นสินเชื่อเพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจของคุณ โดย บริษัทหรือสถาบันการเงิน จะเป็นผู้ชำระเงินตามมูลค่าของทรัพย์สิน ทั้งจำนวน ให้กับผู้ขายสินทรัพย์หรือจ่ายให้คุณก่อนในเบื้องต้น
หลังจากนั้นคุณสามารถผ่อนคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้กับบริษัทหรือสถาบันการเงินนั้นๆ เป็นรายเดือนเท่า ๆ กัน ภายในระยะเวลา 1-5 ปี (ขึ้นอยู่กับสัญญาว่าจะเป็นสินเชื่อลีสซิ่งหรือเช่าซื้อ) คุณจึงไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินจำนวนมากในคราวเดียว ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเครื่องจักร ซื้อยานพาหนะ (รถเก๋ง รถกระบะ รถบรรทุก รถลาก รถพ่วง) หรือเครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ ตลอดจนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และไอที เครื่องมือแพทย์
สารบัญ
- อ่านเงื่อนไขการค้ำประกันเงินกู้ให้ละเอียด
- ทำความเข้าใจความรับผิดชอบในฐานะผู้ค้ำประกัน
- ดูวงเงินการค้ำประกันให้ดี
- สงสัยให้ถามทันที
-
วิธีเซ็นเอกสารค้ำประกันเงินกู้
-
เงินด่วนเอ็ม ลีสซิ่ง คนเดียวก็กู้ได้ไม่ต้องพึ่งคนค้ำ
-
ไม่มีคนค้ำก็จำนำทะเบียนรถได้
-
แนะนำเพื่อนมาสมัครสินเชื่อเอ็ม ลีสซิ่ง
การค้ำประกันคืออะไร
เอ็ม ลีสซิ่ง ขออ้างอิงความหมาย ‘การค้ำประกัน’ จาก ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ระบุว่า การค้ำประกัน คือ สัญญาประเภทหนึ่งที่ผู้ค้ำประกันสัญญากับเจ้าหนี้ว่า “ถ้าลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ ผู้ค้ำประกันจะชำระหนี้นั้นแทน” เมื่อทำสัญญาปั๊บหากลูกหนี้ผิดชำระ เบี้ยวหนี้ หรือหนีหนี้ ทางเจ้าหนี้จะมีสิทธิเรียกร้อง หรือฟ้องร้องให้คนค้ำประกันรับผิดแทนครับ
เราจะต้องถามตัวเองว่า ก่อนค้ำเรามีปัญหาเดือดร้อนทางการเงินไหม สภาพคล่องการเงินเป็นไงบ้าง พร้อมกับประเมินความสามารถจ่ายหนี้ของคนที่มาขอให้เราค้ำประกันด้วยนะ แต่ถ้าตัดสินใจชัวร์แล้วว่าจะค้ำ ก็อยากให้พิจารณา 4 อย่างก่อนเซ็นเอกสารค้ำประกันเงินกู้ ตามนี้
- อ่านเงื่อนไขการค้ำประกันเงินกู้ให้ละเอียด
เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ไม่เข้าใครออกใครหรอกครับ ก่อนจะทำทุกธุรกรรมก่อนจะเซ็นอะไร ต้องอ่านให้จบ อ่านให้หมด ไม่เข้าใจตรงไหนให้สอบถามเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจนก่อนครับ อย่าเพิ่งเซ็นค้ำประกันถ้ายังไม่เช็กรายละเอียด! ซึ่งเอกสารแต่ละหน้าจะต้องอ่านให้ครบ อ่านให้จบทุกตัวอักษรนะครับ - ทำความเข้าใจความรับผิดชอบในฐานะผู้ค้ำประกัน
ไม่ว่าจะเป็นการค้ำประกันเงินกู้แบบไหน จะเป็นค้ำประกันซื้อรถ ค้ำประกันเงินกู้ ค้ำประกันทุนเรียนต่อ ฯลฯ อยากให้พี่ ๆ รู้ไว้ว่าการค้ำประกันเงินกู้เพื่อช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนไม่ใช่เรื่องผิดแต่เราต้องดูให้ดีว่า เราช่วยเหลือได้มากน้อยแค่ไหน และก่อนตัดสินใจเซ็นค้ำประกันเงินกู้ แม้ผู้ค้ำประกันไม่ใช่ลูกหนี้ชั้นต้น หรือลูกหนี้ตัวจริงก็เถอะ หากจำเป็นต้องค้ำประกันจริง ๆ ให้อ่านเอกสารค้ำให้ครบ แล้วต้องทำความเข้าใจให้ดี โดยเฉพาะรายละเอียดจำกัดความรับผิดชอบของผู้ค้ำประกันไว้เฉพาะหนี้ตามที่ระบุในสัญญา รวมทั้งข้อตกลงต่าง ๆ ในเอกสารจะต้องพิจารณาให้ดี - ดูวงเงินการค้ำประกันให้ดี
เหมือนคำที่หลายคนพูดว่า “จงคิดให้ดี…ก่อนเป็นหนี้แทนใคร” การเช็กรายละเอียดค้ำประกัน เราจะต้องตรวจสอบความถูกต้องของวงเงินค้ำประกันที่ระบุในสัญญา และประเภทของสินเชื่อที่ค้ำประกัน แบงก์ชาติกำหนดว่าจะต้องมีการระบุวงเงินของเงินต้นที่ค้ำประกันในสัญญาให้ชัดเจน อ้างอิงตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์ 2557 หากข้อตกลงในสัญญาเป็นภาระให้กับผู้ค้ำประกันเกินสมควรข้อตกลงนั้นจะเป็นโมฆะ - สงสัยให้ถามทันที
รู้อะไรไม่เท่า รู้งี้! ใช่ครับ งง ไม่เข้าใจ สงสัยก็ถามเลย ไม่ต้องเกรงใจ เป็นอีกข้อที่อยากให้ทำความเข้าใจเลยครับ สงสัยอะไรในเอกสารสัญญา หรืออยากถามอะไรต้องรีบสอบถามรายละเอียดให้เข้าใจก่อนลงชื่อในสัญญาค้ำประกันนะครับ
อย่าลืมว่า ผู้ค้ำประกันไม่อาจเลี่ยงความรับผิดชอบที่เกิดตามมาได้หากลูกหนี้ผิดสัญญา ดังนั้น จะต้องเช็กให้ดี ตรวจให้ครบก่อนตัดสินใจเซ็นค้ำประกันนะครับ เช็กครบ 4 ข้อแล้ว เรามาดูวิธีเซ็นเอกสารค้ำประกันเงินกู้เพิ่มเติมกันดีกว่า - และอย่าลืมปรึกษาครอบครัว หรือคู่ครองให้ดีก่อนเซ็นค้ำประกันเงินกู้นะครับ เพราะว่าครอบครัวมีส่วนต้องรู้ว่าเราทำอะไร ไม่ควรปิดบังกัน ให้พูดคุยกันตรง ๆ ก่อนจะเซ็นค้ำประกันว่าครอบครัวของเราเห็นด้วยไหม ? กับการเซ็นค้ำประกันเงินกู้ครั้งนี้ เพราะก็มีหลาย ๆ ครอบครัวชีวิตเปลี่ยนหลังจากค้ำประกันแล้วโดนเบี้ยวหนี้ก็เยอะครับผม
วิธีเซ็นเอกสารค้ำประกันเงินกู้
ส่วนการเซ็นเอกสารค้ำประกันเงินกู้ส่วนใหญ่จะต้องเซ็นเหมือนกันทุกใบครับ โดยจะต้องเซ็นกำกับว่า “ใช้เพื่อ..(เรื่องที่ทำค้ำประกันให้ใคร)…เท่านั้น”
จะให้ดีก็เขียนวันเดือนปีที่ใช้สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาทะเบียนบ้านกำกับลงไปด้วยว่าใช้ตอนไหนจะได้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ หรือจะลองถามเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการเงินกู้เพิ่มเติมก่อนเพื่อความชัวร์ครับ
หลังจากเซ็นแล้วจะต้องเก็บสำเนาสัญญาการค้ำประกันเงินกู้ เพื่อให้ทราบถึงสิทธิ์และขอบเขตความรับผิดชอบจากการค้ำประกันเงินกู้ตามสัญญาด้วยนะครับ กันไว้ดีกว่าแก้ทีหลังครับผม
เงินด่วนเอ็ม ลีสซิ่ง คนเดียวก็กู้ได้ไม่ต้องพึ่งคนค้ำ
เพราะเอ็ม ลีสซิ่งเข้าใจครับว่า ทุกคนมีเรื่องด่วนต้องใช้เงิน ยิ่งตอนขาดสภาพคล่องมองหาเงินด่วน ไม่รู้จะไปหยิบยืมเงินใคร การเลือกเปลี่ยนเล่มทะเบียนรถให้เป็นเงินสด ด้วยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถกับเอ็ม ลีสซิ่ง ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน คนเดียวก็กู้ได้ ไม่ต้องพึ่งคนค้ำก็เป็นอีกทางเลือกที่อยากแนะนำกันครับ ในส่วนวิธีสมัครสินเชื่อก็ง่ายมากครับ มีตามนี้
- สมัครสินเชื่อ สมัครง่าย ๆ เพียงกรอกข้อมูลบนเว็บไซต์เอ็ม ลีสซิ่ง หรือจะทักไลน์ (LINE) เอ็ม ลีสซิ่ง มาสมัครสินเชื่อได้ครับ
- รอติดต่อกลับ หลังจากกรอกข้อมูลสมัครครบก็รอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ เพื่อแนะนำรายละเอียดครับผม
- ยื่นเอกสาร ที่สาขาเอ็ม ลีสซิ่ง ใกล้บ้านครับ เช่น บัตรประชาชน, เอกสารแสดงรายได้, ทะเบียนบ้าน, เล่มทะเบียนรถตัวจริง ฯลฯ รวมทั้งนัดตรวจสภาพรถยนต์ก่อนรับเงินครับ
- รับเงิน หลังจากดำเนินการแล้วเสร็จ ได้รับอนุมัติ ก็รับเงินไปใช้ครับ
หรือถ้าพี่ ๆ ต้องการรู้ว่ารถของเรากู้ได้เท่าไหร่ จะมีวงเงินเพียงพอต่อการใช้จ่ายไหม ก็ลองประเมินวงเงินกู้ คํานวณค่างวดรถก่อนได้ครับ เราก็จะรู้วงเงิน อัตราการผ่อนชำระ คำนวณค่างวดรถต่อเดือนได้ด้วยจะได้เตรียมตัวถูกครับผมหรืออยากสอบถามรายละเอียดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถกับเจ้าหน้าที่เอ็ม ลีสซิ่งแบบทันที เร่งด่วน โทร 044295222 หรือจะเดินทางไปที่สาขาเอ็ม ลีสซิ่ง เราก็ยินดีให้บริการครับ ลองค้นหาสาขาใกล้บ้านได้ครับ
ไม่มีคนค้ำก็จำนำทะเบียนรถได้
สำหรับคนที่อยากหาเงินด่วนแต่ไม่อยากรบกวนใครค้ำประกันก็สามารถกู้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถกับเอ็ม ลีสซิ่ง เงินสั่งได้ เพราะกู้ง่ายไม่ต้องมีคนค้ำก็กู้ได้นะ ลองทักไลน์เอ็ม ลีสซิ่ง เงินสั่งได้ พิมพ์คำว่า ‘ติดต่อเจ้าหน้าที่’ มาสอบถามรายละเอียดกันก่อนได้ครับผม ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ต้องกังวลนะครับ
หรือจะแนะนำเพื่อนมาสมัครสินเชื่อเอ็ม ลีสซิ่งก็ได้นะ
ในส่วนคนที่กำลังจะเป็นผู้ค้ำประกัน ถ้าไม่ชัวร์และยังไม่อยากค้ำประกันเงินกู้ให้เพื่อน ก็สามารถแนะนำเพื่อนให้มาสมัครสินเชื่อกับเอ็ม ลีสซิ่ง เงินสั่งได้ รับค่าแนะนำต่อคันสูงสุด 2,000 บาท* ครับผม